ในภาวะที่การแข่งขันระหว่างธุรกิจเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น องค์การจำนวนมากต้องปรับโครงสร้างเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ การเน้นความสำคัญของการทำงานเป็นทีมของพนักงานก็เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างดังกล่าว ผู้บริหารในธุรกิจปัจจุบันตระหนักดีว่าการใช้ทีมงานเป็นวิธีที่มีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าการกำหนดโครงสร้างแบบถาวร
การทำงานเป็นทีม คล้ายกับการทำงานเป็นกลุ่ม ที่เป็นการทำงานร่วมกันของสมาชิกตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป แต่ต่างกันที่การทำงานเป็นกลุ่มผลการปฏิบัติงานของกลุ่มจะเป็นผลงานของสมาชิกกลุ่มแต่ละคน ในขณะที่ผลการปฏิบัติงานของทีม จะเป็นผลงานของทั้งสมาชิกแต่ละคนและผลงานที่ร่วมกันรับผิดชอบของสมาชิกในทีม (Individual and Mutual Accountability) โดยใช้ทักษะที่มีต่างกันของสมาชิกแต่ละคนมาประสานและประกอบกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างเกื้อหนุนกัน
รูปแบบของทีม (Types of Teams)
ปัจจุบัน องค์การสมัยใหม่นิยมจัดทีมปฏิบัติงานใน 4 รูปแบบ คือ
1. Problem Solving Team หรือ Functional Team คือทีมที่ผู้จัดการทีมจะมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่มาจากหรืออยู่ในสายงานเดียวกัน เช่น ทีมให้บริการลูกค้า ทีมซ่อมบำรุง
2. Self – Managed Team คือทีมที่ไม่มีผู้จัดการหรือหัวหน้าทีม สมาชิกจะต้องรับผิดชอบร่วมกันเองในการจัดการและปฏิบัติงาน เช่น การวางแผน การมอบหมายงาน การตัดสินใจ
3. Virtual Team คือทีมทำงานที่เกิดจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่สมาชิกในทีมประสานทำงานกันด้วยเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ผ่านเครือข่าย การใช้ Videoconferencing, fax, e-mail, web site เป็นต้น สมาชิกจะปฏิบัติงานได้ทุกอย่างเช่นเดียวกับทีมทำงานอื่น ๆ โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การปรึกษาหารือ การตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ร่วมกัน
4. Cross – function Team คือทีมที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ หลาย ๆ ด้าน มาร่วมทีมงานกัน เช่น ทีมงานของปริษัทที่ปรึกษา ที่จะแก้ไขปัญหาการดำเนินงานด้านต่าง ๆ
การพัฒนาและบริหารทีมให้มีประสิทธิผล (Developing and Managing Effective Teams)
การทำงานเป็นทีมไม่ใช่จะสามารถเพิ่มประสิทธิผลได้เสมอไป ผู้บริหารจำเป็นต้องบริหารทีมงานเพื่อให้ได้ประสิทธิผลที่ดี ลักษณะของทีมที่จะได้ชื่อว่ามีประสิทธิผลต้องมีลักษณะ 8 ประการ ดังนี้
1. Clear Goals ต้องมีเป้าหมายชัดเจน
2. Relevant Skills สมาชิกภายในทีมทุกคนต้องมีความสามารถที่สัมพันธ์กัน
3. Mutual Trust ทีมงานที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีความเชื่อถือ และไว้วางใจซึ่งกันและกันในสมาชิกทุกคนของทีม
4. Unified Commitment สมาชิกของทีมต้องมีความภักดีและอุทิศตัวเองให้กับทีม
5. Good Communication สมาชิกและผู้บริหารทีมจะต้องมีการติดต่อสื่อสารและมีความเข้าใจกันอย่างชัดแจ้ง
6. Negotiating Skills สมาชิกในทีมที่มีประสิทธิผลดี จะมีความสามารถในการเจรจาต่อรอง
7. Appropriate Leadership ผู้นำทีมที่มีประสิทธิภาพจะสามารถจูงใจผู้ปฏิบัติงานในทีมให้ทำตามตนได้ในทุกสถานการณ์
8. Internal and External Support ลักษณะทีมที่ดี ต้องมีบรรยากาศภายในของการปฏิบัติงานที่ดีมีอุปกรณ์ เครื่องมือในการปฏิบัติงานที่ครบถ้วน มีการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น